บทความเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ตอนที่ 8 การขอผ่อนผันทางราชการทหารของนักศึกษาเพิ่มเติม
โดยทั่วไปนักศึกษาในสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย จะได้รับสิทธิ์ในการผ่อน
ผันการคัดเลือกทหาร เพื่อให้การศึกษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนสําเร็จการศึกษา แล้วค่อยรายงานตัวเพื่อเข้า
รับการคัดเลือกทหาร ซึ่งนักศึกษาจะสามารถขอผ่อนผันทหารได้จนสําเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือโท
แต่จะต้องมีอายุไม่เกิน 26 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ นักศึกษาที่ได้รับการผ่อนผันการคัดเลือกทหาร จะต้องไปแสดงตัว
หรือรายงานตัวต่อคณะกรรมการคัดเลือกทหารตามหมายเรียก(สด. 35) เป็นประจําทุกปี ห้ามเพิกเฉยละเลย
เป็นอันขาด หากนักศึกษาไม่ไปแสดงตัวในวันคัดเลือกทหารตามหมายเรียก(สด. 35) ดังกล่าว จะถือว่า
นักศึกษาหลีกเลี่ยงหรือหนีราชการทหาร จะมีความผิดตามกฎหมายได้
แต่เนื่องจากการศึกษาในสถาบันการศึกษา โดยเฉพาะในระดับอุดมศึกษา จะมีนักศึกษาบาง
ท่านที่อาจต้องเดินทางไปฝึก ศึกษาดูงานยังต่างประเทศ เช่น ประเทศในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ทวีปออสเตรเลีย
ประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศในทวีปเอเชีย เป็นต้น จึงทําให้นักศึกษาไม่สามารถไปแสดงตัวหรือรายงานตัวใน
วันที่มีการคัดเลือกทหารได้
ดังนั้น เพื่อไม่ให้ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยการเข้ารับราชการทหาร นักศึกษาท่านที่ได้ยื่นเอกสาร
ขอผ่อนผันการคัดเลือกทหารแล้ว แต่มีความจําเป็นจะต้องไปศึกษา ดูงาน ฝึกงานยังต่างประเทศ จะต้องรีบดําเนินการ
จัดเตรียมเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนําไปยื่นที่ งานบริการและสวัสดิการนักศึกษา กองกิจการนักศึกษา
สํานักงานอธิการบดี เพื่อจะได้รวบรวมเอกสาร และขออนุญาตผ่อนผันการไปแสดงตัว หรือรายงานตัวในวัน
คัดเลือกทหาร ไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายอําเภอ ผู้ว่าราชการจังหวัด ตามลําดับ เมื่อได้รับ
การอนุญาตผ่อนผันแล้ว ก็จะสามารถเดินทางไปฝึก ศึกษา ดูงานยังต่างประเทศต่อไป เมื่อเสร็จจากการฝึก ศึกษาดู
งานจากต่างประเทศแล้ว ให้รีบไปรายงานตัวต่อนายอําเภอภูมิลําเนาเดิมโดยเร็ว
สําหรับหลักฐานเอกสารต่างๆ ที่ควรจัดเตรียมไว้ใช้ประกอบในการขออนุญาตผ่อนผันการไป
แสดงตัว หรือรายงานตัวในวันคัดเลือกทหารดังกล่าว ได้แก่
1. หนังสือขอเข้าไปฝึก ศึกษา ดูงาน(สหกิจศึกษา)ต่างประเทศ(ถ้ามี) (ฉบับแปลเป็น
ภาษาไทย ควบคู่กับฉบับภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศนั้นๆ )
2. หนังสือตอบรับจากสถานศึกษา หรือหน่วยงานในต่างประเทศ ที่จะไปฝึก ศึกษาดูงาน
(ฉบับแปลเป็นภาษาไทย ควบคู่กับฉบับภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศนั้นๆ )
3. หนังสือเชิญจากต่างประเทศ ให้มหาวิทยาลัยส่งนักศึกษาไปฝึก ศึกษาดูงาน หรือ
แลกเปลี่ยน(สหกิจศึกษา) (ฉบับแปลเป็นภาษาไทย ควบคู่กับฉบับภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศนั้นๆ)
4. หนังสือตอบรับจากคณะนั้นๆ ที่จะส่งนักศึกษาที่เกี่ยวข้องไปฝึก ศึกษาดูงาน ยัง
ต่างประเทศ(สหกิจศึกษา) (ฉบับแปลเป็นภาษาไทย ควบคู่กับฉบับภาษาอังกฤษ หรือภาษาต่างประเทศนั้นๆ)
5. หนังสือขออนุญาตจากประเทศต้นทาง เพื่อขอเดินทางไปต่างประเทศ(Passport)
6. หนังสือขออนุญาตจากประเทศปลายทาง เพื่อขอเดินทางเข้าประเทศ(Visa)
7. หนังสือรับรองการเป็นนักศึกษา(กรอกแบบฟอร์มขอรับได้ ที่สํานักบริหารและพัฒนาวิชาการ)
8. สําเนาหนังสือที่เคยขอผ่อนผันการคัดเลือกเข้ารับราชการทหารกองประจําการ(ซึ่งมหาวิทยาลัย
ได้มอบสําเนาให้นักศึกษาไว้แล้ว ช่วงที่ขอผ่อนผันในปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งได้ขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดแล้ว)
9. สําเนาหนังสือสําคัญ สด. 9(หนังสือการขึ้นทะเบียนเป็นทหารกองเกิน)
10. สําเนาหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด. 35 ) ซึ่งเป็นหนังสือที่ให้ไปเข้ารับการคัดเลือกทหาร
11. สําเนาทะเบียนบ้านภูมิลําเนาเดิมของนักศึกษา
12. สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน
13. สําเนาบัตรประจําตัวนักศึกษา
14. หนังสือรับรองของสถานกงสุล หรือสถานทูต หรือสถานเอกอัครราชฑูตประเทศนั้นๆ โดย
ระบุให้ทราบว่า ให้นักศึกษาไปศึกษาวิชาใด สถานศึกษาใด ประเทศใด จํานวนปีที่ศึกษา (หลักสูตรกี่ปี)
ประสงค์ที่จะขอผ่อนผันจํานวนกี่ปี จะเดินทางเมื่อใด โดยยานพาหนะใด ทั้งนี้ เอกสารใดเป็นภาษาอังกฤษ หรือ
ภาษาต่างประเทศอื่นๆ ให้แปลเป็นภาษาไทย โดยให้ลงชื่อ ตําแหน่งผู้ที่แปลเอกสารด้วย
หมายเหตุ : เอกสารอ้างอิงจากหนังสือแนวทางการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ. ศ. 2497
กองการสัสดี กรมการสรรพกําลังกลาโหม